สั่งปิดชั่วคราว สำนักสักยันต์ 'อ.แป้ง' หลังถูกเพจดังแฉ

จากที่มีผู้ปกครองไปร้องเรียนที่เพจแหม่มโพธิ์ดำว่ามีบุตรหลานอายุน้อย ใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยและมีการขโมยเงินผู้ปกครองไปเพื่อทำการสักยันต์และบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสำนักแห่งหนึ่งในจังหวัดพะเยานั้น

วันที่ 29 สิงหาคม 2560 ฝ่ายปกครอง อ.เมืองพะเยา เจ้าหน้าที่ รพ.สต.บ้านตุ่น และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและเยาวชน โดยนายสุบิน เทพนิล ปลัดอำเภอ หน.ฝ่ายความมั่นคง เดินทางเจ้าตรวจสอบสำนักสักยันต์อ.แป้ง เลขที่ 321 ม.6 บ้านห้วยลึก ต.บ้านตุ่น อ.เมือง จ.พะเยา หลังจากที่มีข่าวว่าเป็นแหล่งมั่วสุมของเยาวชน ตามที่มีผู้ร้องเรียนไปยังเพจแหม่มโพธิ์ดำ

จากการลงพื้นที่พบนางกีรัตยา ทากิจ อายุ 39 ปี หรือ อ.แป้ง เดิมบ้านเลขที่5 ม.8 ต.ทาสบเส้า อ.แม่ทา จ.ลำพูน อยู่ในสำนักดังกล่าว โดยภายในเต็มไปด้วยรูปปั้นของพ่อแก่และเทวรูปต่างๆจำนวนมากเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ พบเข็มสักยันต์ 5 เล่ม น้ำหมึกสำหรับเติมปากกาและน้ำหมึกสำหรับเติมชาด น้ำมันผสมว่านที่ใช้สักและแกลกอฮอล์ผสมสี

นางกีรัตยา กล่าวว่า ตนเองตั้งสำนักสักยันต์มีประมาณ 14 ปี อุปกรณ์ทั้งหมดตนใช้ในการสักให้กับเยาวชนที่มาสัก แต่ก่อนที่จะสักจะมีการเผาไฟฆ่าเชื้อและเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ที่ใช้ผสมสี จึงไม่เป็นอันตรายหรือเยาวชนเหล่านั้นจะติดเชื้อได้ โดยเยาวชนส่วนมากจะมาให้สักยันต์น้ำมัน 5แถว หรือยันต์ของพ่อแก่ ซึ่งมีคุณทางด้านเมตตามหานิยมและค่าครูไม่แพงเพียง 119บาท กลุ่มเยาวชนจึงนิยมพากกันมาสักจำนวนมากในช่วงเสาร์-อาทิตย์หรือวันหยุดราชการต่างๆ โดยมีค่าครูต่ำสุดที่ 100บาท สูงสุด1,900บาท

นายสุบิน กล่าวว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบ มีการใช้วัสดุ อุปกรณ์ที่ไม่สะอาดและสุ่มเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายต่อเยาวชนที่มาสักยันต์ เช่น ใช้หมึกสำหรับเติมปากกา ใช้หมึกเติมชาดมาเป็นน้ำหมึกในการสัก ใช้แอลกอฮอล์ผสมสีมาเช็ดหัวเข็มสัก ในขณะที่น้ำมันสักก็ใช้เพียงน้ำมันพืชผสมต้นไม้ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่าเป็นว่านนำมาต้มแล้วกรองเอาน้ำและไม่มีใบอนุญาตสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ จึงได้สั่งให้งดกิจกรรมทั้งหมด พร้อมแนะนำให้ไปทำเรื่องขออนุญาตตั้งสถานประกอบการให้ถูกต้อง และนำตัวอย่างน้ำหมึก น้ำมันสักยันต์ส่งตรวจสอบ หลังจากนั้นส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้งว่าจะให้หยุดกิจการถาวรหรืออนุญาตให้สักยันต์ต่อไปได้อย่างถูกกฎหมาย

ขอฝากให้ผู้ปกครองควรดูแลสอดส่องพฤติกรรมของบุตรหลานให้ดี และชี้แจงเรื่องการสักยันต์หรือสักน้ำมัน ว่ามีผลเสียอย่างไร เช่น ไปสมัครข้าราชการไม่ได้ หรืออาจติดโรคเอดส์เพราะใช้เข็มเล่มเดียวกัน หรืออันตรายอื่นๆที่อาจตามมาหลังจากการสักได้ และทางโรงเรียนควรให้คำแนะนำแก่นักเรียนถึงข้อเสียเหล่านี้ด้วย

ขอบคุณที่มาของข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม